Blog มาจากสัพท์คำว่า WebBlog บางคนอ่านคำนี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกันว่าคือบล๊อกความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (personal Journal)ลงบนเว็บไซต์โดยเนื้อหาของblog นั้นครอบคลุมทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือบทความเฉพาะ ด้านต่างๆ เช่น การเมือง เรื่องกล้องถ่านรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล๊อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตน ใส่ลงในบทความนั้นๆ มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์เท่านั้น
Blog แตกต่างกับ Website อย่างไร
ในเบื้องต้นBlog จะแตกต่างจากเว็บไซต์แบบ static ตรงที่ blog จะมีเรื่องให้อ่านมากกว่า มีพื้นที่ให้ผู้อ่านได้โต้ตอบได้ จนกระทั่งมีผู้กล่าวว่า Blog จะมาแทนที่ website นิ่งๆ ที่ทำหน้าที่เหมือนโบรชัวร์ออนไลน์สำหรับประเด็นที่ทำให้ Blog แตกต่างกับ website มีดังนี้
- 1. มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้เขียนและผู้อ่านได้ หรือเรียกว่า Interactive นั่นเอง
- 2. บทความใน blog จะเขียนในรูปแบบกันเอง และดูเหมือนการสนทนา มากกว่าในเว็บไซต์
- 3. ระบบที่ใช้เขียน Blog นั้นง่าย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเซียนคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเขียน blogได้
- 4. อัพเดทได้บ่อยมาก และยิ่งอัพเดทบ่อย จะยิ่งดีต่อการมาเก็บข้อมูล Search Engine นั่นจะทำให้ตำแหน่งผลการค้นหาของเราใน Search Engine นั้นสูงตามไปด้วย
- 5. blog เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำตลาดแบบไวรัส(Viral Marketing)
Viral Marketing
Viral Marketing หรือที่เรามักจะรู้จักกันเป็นภาษาไทย ในชื่อ การตลาดแบบไวรัส คือเทคนิคทางการตลาดอย่างหนึ่ง ที่ใช้ Social Network ที่มีอยู่ก่อนแล้ว มาเสริมสร้าง ให้เกิดการพบเห็นตราสินค้า (ฺBrand Awareness) หรือทำเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ทางการตลาด โดยลักษณะการกระจายข่าวสาร ในแบบ Viral Marketing จะเป็นลักษณะเหมือนการบอกแบบปากต่อปาก เพียงแต่ว่าในยุคนี้ สื่ออินเตอร์เน็ต เอื้อให้การตลาดแบบไวรัส กระจายตัวได้เร็วกว่าแต่ก่อนมาก
Viral Marketing นั้นมีพลัง มีน้ำหนักในการสร้างความเชื่อถือ มากกว่าโฆษณาแบบอื่น ๆ เพราะว่ามีการยืนยันโดยเพื่อน ๆ ของผู้รับเอง เพราะมักจะเป็นการส่งต่อ หรือบอกต่อ โดยใ้ช้อีเมล์ การไป post ไว้ใน blog หรือ Social Network ของตนเอง พอเพื่อนมาเห็น ก็ค่อนข้างจะยินยอมที่จะดู อ่าน หรือฟัง ข้อความหรือข่าวสารนั้นนั่นเอง
Viral Marketing ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ช่องทาง ทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ยังสามารถเผยแพร่กระจายไปตามสื่อ Traditional Media เช่นทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ได้เ่ช่นกัน
ตัวอย่างเช่น กรณีเพลง ผีกาก้า ที่มีผู้เผยแพร่ให้ฟังและดาวน์โหลดกันจากเว็บไซต์ แต่สุดท้ายดังไปทั่วประเทศ เพราะผู้สื่อข่าว ทำไปพูดถึง และนำเสนอผ่าน โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์เป็นต้น ผลสุดท้าย เพลงผีกาก้า ได้รู้จักกันไปทั่วประเทศ และคนแต่งเพลงผีกาก้า ก็ได้ทำ CD มาออกขายผ่านทาง เซเว่น-อีเลเว่น
Viral Marketing หรือที่เรามักจะรู้จักกันเป็นภาษาไทย ในชื่อ การตลาดแบบไวรัส คือเทคนิคทางการตลาดอย่างหนึ่ง ที่ใช้ Social Network ที่มีอยู่ก่อนแล้ว มาเสริมสร้าง ให้เกิดการพบเห็นตราสินค้า (ฺBrand Awareness) หรือทำเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ทางการตลาด โดยลักษณะการกระจายข่าวสาร ในแบบ Viral Marketing จะเป็นลักษณะเหมือนการบอกแบบปากต่อปาก เพียงแต่ว่าในยุคนี้ สื่ออินเตอร์เน็ต เอื้อให้การตลาดแบบไวรัส กระจายตัวได้เร็วกว่าแต่ก่อนมาก
Viral Marketing นั้นมีพลัง มีน้ำหนักในการสร้างความเชื่อถือ มากกว่าโฆษณาแบบอื่น ๆ เพราะว่ามีการยืนยันโดยเพื่อน ๆ ของผู้รับเอง เพราะมักจะเป็นการส่งต่อ หรือบอกต่อ โดยใ้ช้อีเมล์ การไป post ไว้ใน blog หรือ Social Network ของตนเอง พอเพื่อนมาเห็น ก็ค่อนข้างจะยินยอมที่จะดู อ่าน หรือฟัง ข้อความหรือข่าวสารนั้นนั่นเอง
Viral Marketing ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ช่องทาง ทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ยังสามารถเผยแพร่กระจายไปตามสื่อ Traditional Media เช่นทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ได้เ่ช่นกัน
ตัวอย่างเช่น กรณีเพลง ผีกาก้า ที่มีผู้เผยแพร่ให้ฟังและดาวน์โหลดกันจากเว็บไซต์ แต่สุดท้ายดังไปทั่วประเทศ เพราะผู้สื่อข่าว ทำไปพูดถึง และนำเสนอผ่าน โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์เป็นต้น ผลสุดท้าย เพลงผีกาก้า ได้รู้จักกันไปทั่วประเทศ และคนแต่งเพลงผีกาก้า ก็ได้ทำ CD มาออกขายผ่านทาง เซเว่น-อีเลเว่น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น